หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

สกอร์เปี้ยนส์ ''แมงป่องผยองเดช''



ถ้านึกถึงวงดนตรีจากเยอรมันที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก รายแรกที่ทุกคนจะนึกถึงเป็นลำดับต้นๆ คือ สกอร์เปี้ยนส์ และเมืองไทยก็รู้จักพวกเขากันอย่างดี เพราะเคยมาแสดงในเมืองไทยหลายรอบแล้ว

สกอร์เปี้ยนส์ เป็นวงดนตรีแนวเฮฟวี่ เมทัล และฮาร์ดร็อก มาจากเมืองฮันโนเวอร์ โด่งดังสุดในยุคทศวรรษที่ 80 มีพลงดังอย่าง ''Rock You Like a Hurricane'', ''No One Like You'' และ ''Still Loving You'' พวกเขาขายได้ทั่วโลกมากกว่า 75 ล้านอัลบั้ม ตั้งวงกันตั้งแต่ปี 1965 โดยแกนหลักคือ รูดอล์ฟ เชงเกอร์ มือกีตาร์ ซึ่งชวน โวล์ฟกัง ซิโอนี่ มือกลอง มาเล่นดนตรีกันในย่านเมืองฮันโนเวอร์ ปี 1967 ใช้ ฮาราลด์ โกรสคอปฟ์ ตีกลองแทนซิโอนี่อยู่พักหนึ่ง และปี 1968 ก็ได้ โลธาร์ ไฮม์แบร์ก เล่นเบส จนกระทั่งปีต่อมารูดอล์ฟชวน มิคาเอล เชงเกอร์ น้องชาย เสริมทัพในตำแหน่งกีตาร์ และ เคล้าส์ ไมเน่ เข้ามาเป็นนักร้อง สกอร์เปี้ยนส์จึงเริ่มเป็นวงอาชีพเต็มตัว โดยออกอัลบั้มแรกปี 1972 ชื่อ ''Lonesome Crow'' ออกทัวร์ทั่วเยอรมันร่วมกับ ยูไรห์ ฮีพ, ยูเอฟโอ และ โรรี่ กัลลาเกอร์ ในที่สุดมิคาเอลก็ย้ายไปอยู่วงยูเอฟโอช่วงปี 1973 ซึ่งเป็นช่วงเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยเชงเกอร์ไปรวมกับวง ดอว์น โร้ด ของ อูลี่ จอน โร้ธ หรือ อูลริช โร้ธ ซึ่งเป็นมือกีตาร์ ส่วน อาคิม เคียร์ชนิงก์ เล่นคีย์บอร์ด ฮันส์-เจอร์เก้น โรเซนธาล ตีกลอง และ ฟรานซิส บุ๊คโฮลซ์ สวมตำแหน่งเบส ก่อนให้ไมเน่มาเป็นนักร้อง และเปลี่ยนชื่อจากวง ดอว์น โร้ด เป็น สกอร์เปี้ยนส์ เพราะชื่อหลังติดตลาดไปแล้ว

ปี 1974 เคียร์ชนิงก์ออกไปหลังทำอัลบั้ม ''Fly to the Rainbow'' ปีต่อมา รูดี้ เลนเนอร์ส ชาวเบลเยียม มาตีกลองแทนโรเซนธาล ซึ่งต้องไปเป็นทหาร และการออกอัลบั้ม ''In Trance'' ในปีนั้น ทำให้ได้ร่วมงานกับ ดีเตอร์ ดีร์คส์ โปรดิวเซอร์คู่บารมี ถึงปี 1976 สกอร์เปี้ยนส์ออกงาน ''Virgin Killer'' แต่ปี 1977 แฮร์มันน์ ราเรเบลล์ หรือ แฮร์มันน์ แอร์เบลล์ ก็มาแทนเลนเนอร์สที่ออกไปเพราะปัญหาสุขภาพ หลังออกอัลบั้ม ''Taken by Force'' ในปีนั้น โร้ธ มือกีตาร์แนวคลาสสิก และมีส่วนผสมของ จิมมี่ เฮนดริกซ์ อยู่ด้วย ก็รู้สึกไปกันไม่ได้กับแนวทางของเชงเกอร์ ซึ่งเล่นฮาร์ดร็อก และเน้นการตลาดมากขึ้น ปี 1978 สกอร์เปี้ยนส์ออกอัลบั้ม ''Tokyo Tapes'' ซึ่งเป็นบันทึกการแสดงสดที่ญี่ปุ่น แต่โร้ธก็ออกไปตั้งวง อีเล็กทริก ซัน โดย มัทธีอัส ยาบส์ เข้ามาแทน หลังจากมีผู้มาคัดเลือก 140 คน

ปี 1979 มิคาเอลกลับมาร่วมงานกับสกอร์เปี้ยนส์ หลังโดนยูเเอฟโอไล่ออกเพราะติดสุรา และมีอัลบั้ม ''Lovedrive'' ซึ่งประสบความสำเร็จมากจากเพลง ''Loving You Sunday Morning'', ''Always Somewhere'', ''Holiday'' และ ''Coast to Coast'' ช่วงนี้ยาบส์ถูกบีบให้ออกเพื่อหลีกทางให้มิคาเอล แต่ฝ่ายหลังดันไม่เลิกนิสัยเดิม คือติดสุราจนเสียงาน สุดท้ายยาบส์ก็กลับมาเสียบแทนมิคาเอล ถึงปี 1980 สกอร์เปี้ยนส์ออกอัลบั้ม ''Animal Magnetism'' หลังจากนั้นไมเน่ต้องผ่าเส้นเสียงที่ลำคอ โดยมี ดอน ด็อคเค่น มาเป็นคนช่วยร้องแบ็กอัพ แต่หายกลับมาร่วมออกงาน ''Blackout'' ในปี 1982 ซึ่งเป็นอัลบั้มที่ขายดีสุดของวงจนถึงทุกวันนี้ มีเพลงดังอย่าง ''Dynamite,'' ''Blackout'' และ ''No One Like You''

ปี 1984 สกอร์เปี้ยนส์ออกอัลบั้ม ''Love at First Sting'' ซึ่งมีเพลงดังคือ ''Rock You Like a Hurricane'', ''Bad Boys Running Wild'' และ ''Still Loving You'' ก่อนออกงาน ''World Wide Live'' ซึ่งเป็นการบันทึกแสดงสดทั่วโลกในช่วง 1 ปี ตามมาในปี 1985 ส่วน ''Savage Amusement'' ออกในปี 1988 และปี 1990 สกอร์เปี้ยนส์มีผลงานคือ ''Crazy World'' ที่เปลี่ยนโปรดิวเซอร์มาเป็น คีธ โอลเซ่น มีเพลงดังคือ ''Wind of Change'' ต่อมาบุ๊คโฮลซ์ออกไป ราล์ฟ รีคเกอร์มันน์ เข้ามาแทนในอัลบั้ม ''Face the Heat'' ที่วางจำหน่ายช่วงปี 1993 โดย บรูซ แฟร์แบร์น มาเป็นโปรดิวเซอร์ ตามด้วยบันทึกการแสดงสด ''Live Bites'' ในปี 1995 หลังเปลี่ยนมือกลองจากราเรเบลล์เป็น เคิร์ต เครสส์ ก็มีอัลบั้ม ''Pure Instinct'' ในปี 1996 ก่อน เจมส์ ค็อตทัค จะมาเสียบแทนเครสส์ ถึงปี 1999 สกอร์เปี้ยนส์ออกงาน ''Eye II Eye''

งานช่วงนี้เริ่มโดนด่ามากขึ้น แม้แต่ ''Moment of Glory'' ในปี 2000 ซึ่งทำร่วมกับวงดนตรีคลาสสิก เบอร์ลิน ฟิลฮาร์โมนิค ก็ถูกนำไปเปรียบเทียบกับ ''S&M'' ของ เมทัลลิก้า ที่ทำร่วมกับ ซานฟรานซิสโก ซิมโฟนี่ ส่วนอัลบั้มอะคูสติกชื่อ ''Acoustica'' ในปี 2001 ไม่ทำให้อะไรดีขึ้น พาเวล มาซิโวด้า เข้ามาเล่นเบสช่วงปี 2003 และออกอัลบั้ม ''Unbreakable'' ในปี 2004 สกอร์เปี้ยนส์จึงกลับมาได้คำชมจากนักวิจารณ์อีกครั้ง ล่าสุดพวกเขาออกคอนเซปต์อัลบั้ม ''Humanity-Hour I'' ในปี 2007 โดยมี เดสมอนด์ ไชลด์ กับ เจมส์ ไมเคิ่ล เป็นโปรดิวเซอร์

วันนี้พวกเขาแก่ขึ้น อายุเฉียด 60 เกือบหมดแล้ว สกอร์เปี้ยนส์ เปรยว่าไม่อยากทำเพลงแบบหนุ่มจีบสาว หรือฉันหลงรักเธอ อีกต่อไปแล้ว เพราะไม่เข้ากับวัย แต่ไม่ว่าวันคืนเปลี่ยนไปแค่ไหน คนก็คงไม่ลืม ''แมงป่องผยองเดช'' วงนี้อย่างแน่นอน
ข้อมูลพิเศษ

นอกจากจะเป็นชื่อวงร็อกจากเยอรมันแล้ว สกอร์เปี้ยนส์ ยังเป็นชื่อวงดนตรีอังกฤษอีก 2 วง หนึ่งนั้นมาจากแมนเชสเตอร์ช่วงยุคทศวรรษที่ 60 อีกหนึ่งมาจากลอนดอน เป็นวงดนตรีบรรเลง 3 ชิ้น ออกอัลบั้มในปี 1961 สำหรับ อีฟ ศิลปินแร็พ ก็เคยออกอัลบั้มชื่อ ''Scorpion'' และ เมกาเดธ เคยมีเพลง ''The Scorpion'' ในอัลบั้ม ''The System Has Failed''




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น